วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ไม่อยากเป็นมะเร็ง ควรกินแบบไหน
- ของเค็ม ของดอง ของรมควัน ปิ้งย่างทั้งหลาย โดยเฉพาะที่ทำมาจากเนื้อสัตว์เด็ดขาด
- เนื้อสัตว์ที่ทำกันมาเพื่อให้เก็บกินได้นานๆ พวก แฮม ไส้กรอก เบคอน ซาลามี่ พวกนี้จะไปสะสมเกิดมะเร็งในช่องท้องได้
- จำไว้เลยว่าของกินอะไรที่กึ่งดิบกึ่งสุกและดำ เช่น แหนมย่าง ตับไก่ปิ้งก่อให้เกิดมะเร็งแน่นอน
- เนื้อสัตว์ที่ย่างแบบ “สุกสุด” หรือที่ภาษาอังกฤษเขาใช้ว่า “Well Done”ก็เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้เหมือนกัน
- อย่าสูดดมควันอาหารปิ้งย่างเด็ดขาด
ควรกินด่วน
- ด็อคเตอร์แอนดรูว์ ไวล์ นักธรรมชาติบำบัดของอเมริกา ท่านศึกษาเรื่องเห็ดมาอย่างยาวนาน แนะนำว่าเห็ดในประเทศแถบเอเชียนี่ล่ะ กินแล้วป้องกันมะเร็งได้ ถ้าหาได้ในบ้านเราก็ต้อง “เห็ดโคน” ส่วนใครมีงบมากหน่อยก็ลอง “เห็ดชิตาเกะ” ของญี่ปุ่นดู
- พวกพืชผลไม้ในกลุ่มสีเหลืองส้ม จะมีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด เราก็กินพวกมะม่วงสุก ข้าวโพด แครอท ก็แล้วกัน
- กินวิตามินอี 80 มิลลิกรัมต่อวัน เลือกอันที่เขาระบุว่ามีทั้งสาร Tocopherols และ Tocotrienols อย่างละ 4 ตัว และควรกินกับอาหารมื้อใหญ่หน่อย เพราะวิตามินอีต้องการให้ไขมันดูดซับไปด้วย
- กินวิตามินซี 200 มิลลิกรัมต่อวันก็พอ [...]
8 ความจริงที่ทำให้ผู้ชายดูแก่กว่าวัย?
1. กินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว? การกินไขมันอิ่มตัวในเนื้อ ไก่ นมและเนย ในปริมาณมาก นอกจากจะเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การมีสุขภาพที่ย่ำแย่ และอาการของโรคหัวใจแล้ว คอเลสเตอรอลในอาหารประเภทนี้ยังมีส่วนสำคัญในการเร่งให้คุณดูแก่กว่าวัยโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
2. สูบบุหรี่ จัดตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค
กว่า 1 ใน 5 ของผู้ใหญ่ในอเมริกา หรืออาจกล่าวได้ว่าประมาณ 46 ล้านคนของชาวอเมริกัน ยังคงเป็นประชากรที่สูบบุหรี่เป็นกิจวัตรประจำวันและเพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งและมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร วิธีง่ายๆ วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดการสูบบุหรี่ลงได้คือการหาหมากฝรั่งต้านนิโคตินมาเคี้ยว ซึ่งเป็นวิธีการบำบัดที่สามารถทำไปพลางๆ ก่อนที่จะตัดใจเลิกสูบอย่างจริงจังและเป็นวิธีการบำบัดที่ได้ผลมาแล้ว เพื่อทำให้ตัวเองกลับมาดูหนุ่มขึ้นเหมือนเดิม
3. อยู่กลางแดดมากเกินไป ถึงคุณจะทำงานในสำนักงานที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่อย่าลืมว่าเวลาที่ออกรอบตีกอล์ฟเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือแม้แต่การสัมผัสกับแสงแดดในแต่ละวันก็ทำให้คุณได้รับรังสียูวีและความร้อนที่ทำลายความชุ่มชื้น ของผิวและทำลายเซลล์ผิวไปในเวลาเดียวกัน และหากจำเป็นต้องออกแดดจัดทุกครั้ง อย่าลืมหาอุปกรณ์ป้องกันแดดที่รวมเอาร่มแว่นตาและครีมกันแดดเข้าด้วยกัน ติดตัวคุณไปด้วยหากไม่ลำบากจนเกินไป
4. พักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงแต่จะช่วยพักฟื้นระบบการทำงานของร่างกายที่อ่อนล้ามาตลอดวันแล้ว การได้หลับตาพักสักงีบใหญ่ๆ ยังเป็นการพักผ่อนผิวไปในตัวด้วยและยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการปรับสภาพผิวและสร้างเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้การนอนน้อยยังนำไปสู่การเป็นโรคอ้วนด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณควรเข้านอนให้เร็วขึ้นอีกสักหน่อย โดยการสร้างบรรยากาศห้องนอนให้น่านอนนับตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง
5. ความเครียด ทั้งหมดที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าความเครียด จะเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยากที่สุด เพราะไม่ว่าจะบอกตัวเอง ไม่ให้เครียดอย่างไร สุดท้ายแล้วถ้าคุณยังจมอยู่กับกองงาน และห้องสี่เหลี่ยม อะไรอะไรก็คงไม่มีทางดีขึ้น นอกเสียจาก คุณจะลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง หรือจะให้ดี ก็ตรงไปที่สปอร์ตคลับ หรือฟิตเนสเซ็นเตอร์ใกล้บ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ให้กับตัวเองบ้าง
6. ดื่มหนัก [...]
บอกนิสัยจากสิ่งที่ชอบ
1 . คนที่ชอบ เล่นกีฬา ออกกำลังกาย
เป็นคนร่าเริง แจ่มใส มองโลกด้วยทัศนะสุขนิยม
ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่สับสนวุ่นวาย
2 . คนที่ชอบ อ่านหนังสือ ฟังดนตรี
เป็นพวกรักความสงบ? ส่วนใหญ่เป็นคนฉลาดและมีสติปัญญาล้ำเลิศ
แต่มักเสียเพราะเป็นคนช่างสะเทือนใจ
3 . ผู้ที่ชอบงานออกแบบ วิศวกร เครื่องบิน ยานอวกาศ
ส่วนใหญ่เป็นคนมีเหตุผล? มีความสมดุล รู้จักควบคุมชีวิตได้ดี
4 . พวกที่ชอบ งานเทคนิค
เป็นพวกที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูง สุขนิยม เข้ากับคนง่าย
ไม่เย่อหยิ่งกับความสำเร็จของตนเอง
และมักจะมีความสุขกับผลงานเล็กๆน้อยๆ? ของตนเองเสมอ
5 . พวกที่ชอบ วิทยาศาสตร์ ชอบ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์
มักเป็นคนมีเหตุผล มีหลักเกณฑ์ในการตัดสินปัญหา
ค่อนข้าง เป็นผู้ใหญ่ สายตากว้างไกล
ชอบหัวเราะให้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
6 . พวกที่ชอบสะสม เช่น สะสมของเก่า สะสมแสตมป์
มักเป็นคนฉลาด ความรู้กว้าง คุยเก่ง? เพื่อนเยอะ ไม่ค่อยเหงา
7 . พวกที่ชอบ ศิลปะ และ ดนตรี
เป็นคนที่มีความรู้สึกซับซ้อน?? มีอารมณ์ศิลปิน
ทำให้ชีวิตและโลกสวยงามหลากหลายรูปแบบ
8 . พวกนัก นิยมธรรมชาติ ชื่นชอบ การท่องเที่ยว ชอบตกปลา
มักไม่เพ้อฝัน? [...]
วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เมนูห้ามรับประทานขณะท้องว่าง
ก่อนที่จะรับประทาน ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อนนะคะ เพราะบางทีอาหารที่เราทานลงไปทั้งๆ ที่มีประโยชน์แต่ไม่ถูกเวลา ก็อาจส่งผลเสียบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ค่ะ ไปดูกันว่าอาหารที่ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง
นมและนมถั่วเหลือง
แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหารมีสาร
ประเภทแป้งอยู่
เหล้า
หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้
น้ำตาลหรืออาหารหวาน
ไม่ควรรับประทานอาหารหวานหรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะ
ท้องว่างจะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิดและลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต
ชาที่แก่เกินไป
ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารลดลง
และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะมือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ
ลูกพลับ
ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไป
รวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้ว จะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วย
เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วยขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุ
แมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไปเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือด
หัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
กระเทียม
เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารได้รับการกระตุ้น เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง
ผัก
การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปกติ
นอกจากนั้นยังไม่ควรอาบน้ำและออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกายใน
ขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อกเนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย อย่าลืมสิ่งใดที่มีคุณอนันต์ก็
อาจมีโทษมหันต์เช่นกัน ถ้าคุณปฏิบัติอย่างผิดวิธี
เครื่องดื่มตามกรุ๊ปเลือด
เครื่องดื่มตามกรุ๊ปเลือด
เลือดกรุ๊ปโอ จะมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป เพราะจะย่อยยาก และเมื่อเกิดการสะสมแป้ง ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาล และจะกลายเป็นโรคเบาหวานและทำให้อ้วนง่าย อาหารที่ควรทานคืออาหารจำพวกสาหร่าย เกลือไอโอดีน อาหารทะเล และควรกินตับ กินบลอกโคลี ผักโขม เพราะจะช่วยในเรื่องประสิทธิภาพการเผาผลาญมากขึ้น
เครื่องดื่มที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอคือ น้ำสัปปะรด น้ำลูกพรุน แต่ไม่ควรดื่มน้ำแอบเปิล น้ำส้ม น้ำกระหล่ำปลี
เลือดกรุ๊ปเอ กรุ๊ปนี้จะตรงข้ามกับกรุ๊ปโอแทบจะทุกอย่าง เพราะเลือดกรุ๊ปนี้จะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ จึงเหมาะกับอาหารมังสวิรัติและควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เพราะหากกินมากเกินไปร่างกายจะไม่ยอมย่อย ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง หากต้องการกินเนื้อจริงๆ ควรบริโภคแค่เนื้อไก่เพราะไม่มีไขมันมาก หรือกินถั่วเหลืองแทนเพื่อทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แล้วควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป เช่นไส้กรอก แฮม เพราะอาหารจำพวกนี้มีสารดินประสิวที่ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร ควรหันมากินผักและอาหารจากถั่วเหลือง เพื่อช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนเลือดกรุ๊ปเอก็คือ น้ำแอปปริคอต น้ำแครอต น้ำเซเลรี [...]
สูตรยาดี
> สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือชื่อ ‘
> ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ‘ เช่น
> 1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด
> น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จ ะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง
>
> 2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
> 3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมัน
> ไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด
>
> 4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็น ประจำ
> สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี
>
> 5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง
>
> 6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
> ( ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง )
> [...]
“5 อย่า” เมื่อคุณจะนอน
ที่ 1 คือ อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ
ก็เพราะขณะที่นาฬิกาเจ้ากรรมทำงานไปเรื่อยๆ นั้นเจ้านาฬิกาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาวเลย
อย่าที่ 2 นี่ สำหรับพวกชอบคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับโดยเฉพาะเลย
ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ใกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้ และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยส ิ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ใกล้หรือไกลก็หายห่วง
อย่าที่ 3 ง่ายๆ สั้นๆ คือ อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง
ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว กลางคืนคือช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ
อย่าที่ 4 (สำหรับสาวๆ เท่านั้น) คือ อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง
นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย [...]
71เรื่องของผู้หญิงที่ผู้ชายอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม
1. เวลาผู้หญิงเข้าห้องน้ำ จะเปิดซิปกระโปรงหรือถลกเอา?
ตอบ : แล้วแต่สะดวก แต่ส่วนมากถลก
2. ผู้หญิงสวมกระโปรงยาวเป็นคนเรียบร้อยใช่ไหม?
ตอบ : ไม่เสมอไป อาจเป็นแฟชั่น
3. มีเสื้อผ้าเต็มตู้ จนไม่มีช่องว่างให้แมลงสาบหายใจ แต่ทำไมยังบอกว่าไม่มีอะไรจะใส่?
ตอบ : ก็หาที่ถูกใจกับอารมณ์วันนี้ยังไม่ได้ หรืออาจจะเรียกให้ดูดีหน่อย อาจจะบอกว่า เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละวัน หรือว่าแฟชั่นช่วงนั้นๆ
4. ทำไมผู้หญิงต้องมุ่งมั่นเอากับการทำให้ผมตรงเรียบ แบบเอาเป็นเอาตายด้วย?
ตอบ : แล้วจะให้มันยุ่งทำไมละ
5. สวมร้องเท้าส้นสูงแหลมๆ ทำไมถึงทรงตัวได้?
ตอบ : เป็นพรสวรรค์ตั้งแต่ชาติก่อน
6. เจ้ามาสคาร่านะ มันจะทำให้คุณดูดีขึ้นเหรอ?
ตอบ : โคตรๆ ถ้ายาวทิ่มตาผู้ชายได้ จะแฮปสุดๆ
7. น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เป็นโศกนาฏกรรมชีวิตเลยหรือ?
ตอบ : ไม่ใช่แค่น้าหนัก แต่รวมถึงเอว ตะโพก พุง ต้นแขน ต้นขา และรอบคอ
8. ต้องการอะไร ทำไมไม่พูดตรงๆ และทำไมต้องคิดว่าผู้ชายต้องเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้าด้วย
ตอบ : อ้าว ไม่รู้นี่ว่าผู้ชายไม่ฉลาด
9. เวลาคนอุ้มท้อง นอนหงายหรือนอนตะแคง?
ตอบ : ทั้งสองอย่าง แล้วแต่ความเมื่อย
10. ทำไมต้องเติมแป้งที่ใบหน้าอยู่ตลอดเวลา
ตอบ [...]
ผู้ชายคิดยังไงกับแฟน?
ผู้ชายคิดยังไงกับแฟน?
(คำเตือนควรอ่านเกินวันละ2 ครั้ง เด็กและสตรีมีครรภ์ก็ควรอ่าน
สตรีโสดหนุ่มซิงยิ่งต้องอ่าน)นี่คือแบบทดสอบที่เราคัดเลือกหนุ่มโสดแมนๆ
100 คน มาทำไม่ใช่เห็นเดินtood บิดก็คว้ามาทำอันนี้หลุดโผล่ะครับ
ซึ่งแต่ละกันหน้าที่การงานดีที่สำคัญหน้าตาหล่อทุกคน
ถ้าให้ลองเปลี่ยนเป็นผู้หญิง 1 วันผู้ชายจะลองมั้ย
73% ลองดูเพราะสนุกดีจะได้รู้ว่าผู้หญิงเค้าคิดยังไง
27%ไม่ลองเพราะรู้สึกสนุกกับการเป็นผุ้ชายคิดว่าเป็นผู้หญิงมันลำบากไม่อยากลอง
ผู้ชายอยากได้แฟนหน้าตาแบบไหน
29%ไทยแท้ 50%หมวยๆ 21%ลูกครึ่งฝรั่ง
ผู้ชายชอบผู้หญิง
78% ผมยาว 22% ผมสั้น
ผู้ชายคิดยังไงกับผู้หญิงที่มีรอยสัก
5% ชอบ 59% ไม่ชอบ 36%ยังไงก็ได้
ผู้ชายอยากให้แฟนตัวเองแต่งตัวแบบไหน
8% ตามแฟชั่น 72%เป็นตัวของตัวเอง 20%ยังไงก็ได้
ผู้ชายอยากให้แฟนตัวเองมีรุปลักษณ์ภายนอกแบบไหน
32%เซ๊กซี่ 68% น่ารักคิกขุ
ผู้ชายอยากให้แฟนตัวเองเป็นคนแบบไหน
74%สนุกสนานคุยเก่ง 26% ร่าเริง ยิ้มง่าย คุยน้อย
ผู้ชายอยากให้แฟนตัวเองอายุเท่าไหร่
49% อายุน้อยกว่า 14%อายุเท่ากัน
3%อายุมากกว่า 34% ยังไงก็ได้
ผู้ชายคิดว่าผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหน
70% นิสัยดี+รวย 30% นิสัยดี+หล่อ
ผู้ชายอยากให้แฟนตัวเองเรียกตัวเค้าว่าอะไร
10%เธอ 9%ตัวเอง 7%พี่ 50%ชื่อของคุณ
11%ที่รัก 5%คุณ 0%มึง 8%ฉายาที่ตั้งให้
ผู้ชายอยากให้แฟนเรียกแทนตัวเองเมื่อคุยกันว่าอะไร
0%เรา 10%ฉัน 16%เค้า 53%ชื่อตัวเอง
3% หนู 3%ดิฉัน 1%กู 4%ฉายาที่ตั้งให้
ผู้ชายอยากได้ของชนิดไหนจากแฟน
53% ของที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง 47% ของถูกใจที่ตัวเองอยากจะได้
ผู้ชายคิดว่าวันไหนสำคัญที่สุดสำหรับแฟนตัวเอง
73%วันเกิดแฟน 5% วันวาเลนไทน์
22%วันครบรอบที่รู้จักกันหรือวันครบรอบวันแต่งงาน
ผู้ชายคิดยังไงถ้าสแฟนตัวเองแต่งตัวโป้
20%ชอบ 80%ไม่ชอบ
ผู้ชายแคร์มั้ยถ้าไม่ใช่คนแรกของแฟนตัวเอง
29% แคร์ 71% ไม่แคร์
ผู้ชายคิดว่าตัวเองเป็นคนโรแมนติคมั้ย
66% โรแมนติค 34%ไม่โรแมนติค(เหมือนคนในบอร์ด)
ผู้ชายคิดว่าตัวเองเจ้าชู้หรือไม่
60%เจ้าชู้ 40%ไม่เจ้าชู้ (พวกนี้ไว้ใจไม่ได้)
ถ้าหากผู้ชายคบกับแฟนได้ 2 ปีเค้าอยากไปเที่ยวปีใหม่กับใคร
17% เพื่อน 83% แฟน
ผู้ชายเคยโกหกแฟนตัวเองมั้ย
91% เคย 9% ไม่เคย
เรื่องที่ผู้ชายโหกแฟนบ่อยที่สุด คือเรื่องอะไร
12% เรื่องส่วนตัว 3% เรื่องงาน 52% เรื่องผู้หญิง
24%เรื่องสังคมและเพื่อนฝูง 9% ไม่เคยโกหก
ผู้ชายคิดว่าจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าเค้าจะไม่โกหกแฟนตัวเองอีกตลอดชีวิต
86%เป็นไปไม่ได้เพราะการโกหกเล็กๆน้อยบางครั้งมันก็ลดปัญหาระหว่างเค้ากับแฟนตัวเองได้
14%เป็นไปได้เพราะการโกหกเป็นสิ่งเลวร้ายที่ผู้ชายไม่ควรทำ
ผู้ชายคิดย้งไงกับผู้หญิงที่สูบบุหรี่
0% ชอบ 73% ไม่ชอบ 27% ยังไงก็ได้
ถ้าผู้ชายนัดคุณไปเดทกันครั้งแรกแล้วคุณตอบว่า’ขอดูก่อนไม่แน่ใจว่าจะไปได้รึเปล่า’ผู้ชายจะคิดยัง
ไง
21%คุณไม่แน่ใจว่าจะติดธุระจริงๆรึเปล่า
31%ค ุณอยากไปด้วยแต่สงวนท่าทีไว้ก่อน
48%คุณคงไม่อยากไปแต่พูดเลี่ยงๆกลัวผู้ชายจะเสียใจ
เดทครั้งแรกถ้าหากคุณมากสายกว่า 1/2 ชั่วโมง ผู้ขายจะรู้สึกอย่างไร
17% ไม่พอใจที่คุณไม่เห็นความสำคัญของเค้า
49% พยายามทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการมาสาย
34% เฉยๆ ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย
ถ้าผู้ชายมีแฟนซักคนเค้าจะรักมากขนาดไหน
20% รักมาก ชีวิตนี้ขาดเธอคนนี้ไม่ได้
53% รักเหมือนกัน แต่คิดว่าชีวิตนี้ยังไม่อะไรมากว่าความรักอีกมากมาย
27% คิดว่าต้องรักตัวเองให้เป็นก่อนไปรักคนอื่น
ต่อไปเป็นแบบทดสอบว่าคุณเป็นคนประเภทไหนใน 3 ชนชั้น คือ
เทพบุตร/มนุษย์เดินดิน/ นรกส่งมาเกิด
โดยแบ่งแยกจากการกระทำและสถานการณ์ เอาหละไปดูกัน
ทันทีที่คุณไปขอเบอร์ผู้หญิง
เทพบุตร : ผู้หญิงคนนี้น่ารักดีอยากเข้าไปทำความรู้จักจัง
มนุษย์เดินดิน : อืม….ก็โอเคสวยดีนี่หว่าเข้าไปคุยดีกว่าเผื่อฟลุ๊ค
นรกมาเกิด : อื้อหืม แ_ง หุ่นนี่นะมืงแค่เห็นก็น่า__แล้ว
ทันทีที่คุณนัดเดทกับผู้หญิง
เทพบุตร : เอาหละนี่เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาศได้ใกล้ชิดเค้าเราต้องแสดงความเป็นสภาพบุรุษ
ให้เต็มที่เค้าจะได้ประทับใจเรา
มนุษย์เดินดิน : ครั้งแรกนี่ต้องเอาใจไว้ก่อนเฟ้ย เค้าจะได้รู้สึกดีด้วย
นรกมาเกิด : มันยังไงไม่รู้ล่ะแต่ถ้ามีโอกาสต้องหาทางแต๊ะอั๊งหากำไรให้คุ้มกับค่าข้าวที่เสียไป
คิดถึงจัง
เทพบุตร : คุณอยู่ในใจผมตลอดเวลาเลยนะ
มนุษย์เดินดิน : ใครๆก็พูดอย่างนี้กันแหละ ก็พูดๆไปเหอะผู้หญิงเค้าชอบ
นรกมาเกิด : ตูมีอารมณ์!!
ผมรักคุณ
เทพบุตร : คุณเป็นคนที่มีความหมายต่อผมมากนะ
มนุษย์เดินดิน :คำนี้แหละไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหนเจอคำนี้เป็นเสร็จทุกราย
นรกมาเกิด : ตูอยากฟันxxx !!!
คุณรักผมมั้ย
เทพบุตร : เราจริงใจกับเค้าแล้วเค้าจะมีให้ให้เราบ้างรึเปล่านะ
มนุษย์เดินดิน : ถ้าตอบโอเคก็เตรียมแผนเผด็จศึกเร็วๆนี้
นรกมาเกิด : จะให้ตูฟันได้รึยัง?
ไปเที่ยวบ้านผมมั้ย
เทพบุตร : อยากให้เค้าได้รู้จักพ่อแม่ของเราจัง
เผื่อวันข้างหน้าเค้าจะได้ไม่ลำบากใจถ้าจะมาอยู่กับครอบครัวของเรา
มนุษย์เดินดิน : ชวนซะจะได้มีอะไรคืบหน้าหน่อย
นรกมาเกิด : ถ้าตอบโอเค xxxเสร็จตูแน่
หลังจากมีสัมพันธ์กันครั้งแรก
เทพบุตร : ในที่สุดเรา 2 คนก็ได้เป็นคนเดียวกันแล้ว
คุณคือส่วนหนึ่งของชีวิตผม จากนี้ไปผมจะทะนุถนอมคุณให้ดีที่สุด
มนุษย์เดินดิน : เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลังตอนนี้ขออีกทีละกันนะ
นรกมาเกิด : พี่มีเมียแล้วน้อง !!
ถึงผู้หญิงทุกคนบนโลก
ปัจจุบัน เทพบุตรได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วโลกใบนี้ประกอบด้วย
ผู้ชายที่เป็นมนุษย์เดินดิน 30%
ส่วนอีก70% เหลือคือผู้ชายที่นรกส่งมาเกิดทั้งนั้น…โชคดีนะครับ…สาวๆ
เรื่องตลก ขำขัน
สาวเจ้าเลยไม่ทราบว่าเป็นสระสำหรับสุภาพบุรุษเท่านั้น
อารมณ์ที่เห็นน้ำใสน่าแหวกว่าย เธอก็เลยโดดตูมลงไปในสระ
และว่ายน้ำด้วยความเพลิดเพลิน แต่พอเจ้าหล่อนจะขึ้นจากน้ำนี่สิ
บิกินีตัวจิ๋วท่อนล่างเกิดอันตรธานหายไปไหนไม่ทราบ ด้วยความตกใจ
เธอเลยรีบคว้าเอาป้ายที่ตั้งอยู่ข้างสระมาปิดจุดสำคัญ
ที่บัดนี้ไม่มีบิกินีปกปิดอีกต่อไปแล้ว แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ
ผู้ชายที่อยู่ในบริเวณสระเริ่มเดินเข้ามาหาเธอเป็นกลุ่ม ๆ เธอประหลาดใจ
มากเลยก้มลงไปมองดูที่ป้าย “ตายแล้ว” เธอคิดในใจ
ก็ที่ป้ายนั่นเขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวโตเลยว่า
” FOR MEN ”
เธอเลยรีบพลิกป้ายกลับไปข้างหนึ่งทันที ปรากฏว่า ได้ผล
ผู้ชายที่เดินเข้ามาหาเธอ ต่างแตกกระจาย ออกไปเหมือนผึ้งแตกรัง
คราวนี้เธอเลยก้มดูป้ายอีกที เห็นมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า
” อันตราย ลึก 3 เมตร “
พืชสมุนไพร
| พืชอาหาร กลุ่มชนพื้นบ้านนำพืชหลากชนิดมาใช้เป็นอาหาร แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นตามวัฒนธรรมการบริโภคของชนเผ่า การศึกษาพฤกษศาสตร์พื้นบ้านในเรื่องของพืชอาหารพื้นบ้านจะเน้นเฉพาะพืชที่เก็บหาได้ในธรรมชาติ จากป่าท้องทุ่ง ฯลฯ พืชป่าหลายชนิดถูกนำมาปลูกทิ้งไว้ตามหัวไร่ปลายนา หรือในบริเวณหมู่บ้าน เพื่อความสะดวกในการเก็บหานำมาใช้บริโภคในชีวิตประจำวัน พืชอาหารบางชนิดเป็นที่นิยมกันทั่วไปเกิดการแก่งแย่งเก็บหาออกจากป่าจนเกินกำลังผลิตทำให้ผลิตผลในธรรมชาติลดลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในปัจจุบันได้มีการนำพืชป่าดังกล่าวมาปลูกขยายพันธุ์ในสวนหรือในแปลง เพื่อเก็บผลิตผลเป็นการค้า เช่น สะตอ เนียง ผักหวาน ผักกระเฉด ฯลฯ พืชอาหารที่ใช้บริโภคเก็บหาในธรรมชาติบางครั้งจะพบวางขายตามตลาดสดในชนบทจำแนกออกเป็นกลุ่มได้ กลุ่มพืชผักพื้นบ้าน รวมถึงพืชชั้นต่ำจำพวกสาหร่าย เห็ด เฟินจนถึงพืชชั้นสูงทั่วไป ชนพื้นบ้านนำส่วนต่างๆ ของพืชมาใช้บริโภคตามความเหมาะสม ได้แก่ ส่วนของราก หัว เหง้า ลำต้น ยอด ใบ ดอก ผลเมล็ด หรือใช้ทั้งต้น วิธีการประกอบอาหารอาจจะใช้เป็นผักสด ผักลวก ผักดอง ต้มใส่ในแกงผัด หรือใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร พืชผักพื้นบ้านของไทย เช่น เทา (Spirogyra sp.) สาหร่ายสีเขียวน้ำจืดใช้กินเป็นผักกับน้ำพริก ลาบ ปนในแกงส้ม หรือ ผัดกับไข่ เห็ด ที่เกิดตามธรรมชาติและนำมาเป็นอาหารมีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะปรุงให้สุกเสียก่อนโดยการนึ่ง ย่าง ต้ม หรือผัด ใช้กินกับน้ำพริก ใส่แกงหรือผัดผัก เช่น เห็ดไข่ห่าน (Amanita vaginata) เห็ดลม (Lentinus praerigidus) เห็ดตีนตุ๊กแก (Schizophyllum commune) เห็ดโคน (Termitomyces fuliginosus) เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ (Astreaushygrometricus) เห็ดมันปูใหญ่ (Cantharellus cibarius) เห็ดตับเต่า (Boletus edulis) เห็ดหล่มขาวหรือเห็ดตะไคล (Russuladelica) เห็ดขมิ้นน้อย (Craterellus sp.) เฟิน ใช้ส่วนของยอดอ่อนหรือใบอ่อนเป็นอาหาร ใช้เป็นผักสดหรือผักดอง นึ่ง ลวก ผัดหรือใส่แกง เช่น ผักขาเขียด (Ceratopteris thalictroides) ปรงสวน (Stenochlaena palustris) ผักกูดขาว (Diplazium esculentum) ผักแว่น (Marsilea crenata) ผักกูด (Pteridium aquilinum varyarrabense) ผักกะเหรี่ยงหรือผักเหลียง (Gnetum gnemonvar. tenerum) ไม้พุ่มจำพวกพืชเมล็ดเปลือย (gymnosperm) ทางภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ยอดและใบอ่อนนิยมใช้เป็นผักลวกจิ้มน้ำพริก ผัดใส่แกงห่อหมก สะเดาหรือสะเดาไทย (Azadirachta indicavar. siamensis) ช่อดอกและใบอ่อนมีรสขม นำมาต้มหรือลวกเป็นผักจิ้มน้ำปลาหวาน ผักไผ่ (Polygonum odoratum) ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้ปรุงอาหารประเภทยำต่างๆ ผักขะยาหรือผักปู่ย่า (Caesalpinia mimosoides) ใบอ่อนและช่อดอกอ่อน ใช้เป็นผักสดจิ้มน้ำพริก เลียบหรือผักเฮือด (Ficus lacor) ใบอ่อนและยอดอ่อนใช้เป็นผักสดจิ้มน้ำพริก หรือใช้ใส่แกงคั่ว หรือแกงต้มกะทิ ผักเค็ดหรือชุมเห็ดเล็ก (Cassia occidentalis) ยอดและใบอ่อนนำมาลวกเป็นผักจิ้ม จมูกปลาหลด (Oxystelma esculenta) ยอดและใบอ่อนใช้เป็นผักจิ้ม หรือยำ เถาย่านาง (Tiliacora triandra) ยอดและใบอ่อนใช้แกงเลียง ใบแก่นำมาปรุงแกงขี้เหล็ก แกงหน่อไม้ สันตะวาใบพาย (Ottelia alismoides) ใบอ่อนและช่อดอกใช้เป็นผักจิ้มสดหรือใช้แกงส้ม ผักเผ็ด (Spilanthes paniculata) ดอกและใบสดใช้กินกับลาบ ลิ้นฟ้าหรือเพกา (Oroxylum indicum) ฝักอ่อนสดใช้กินกับลาบและน้ำพริก ผักสังหรือผักกระสัง (Peperomia pellucida) ยอดและต้นนำมาลวกกินกับลาบ แจ่ว ผักหวานบ้าน (Sauropus androgynus) ใบอ่อนนำมาลวกจิ้มน้ำพริก ผักหวานป่า (Melientha suavis) ยอดและใบอ่อนนำมาลวกเป็นผักจิ้ม หากกินสดๆ จะมีกลิ่นเหม็นเขียวเล็กน้อย บัวสาย (Nymphaea lotus var. pubescens) ก้านดอกใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริกหรือแกงเผ็ด สะตอ (Parkia speciosa) นิยมกินกันมากทางภาคใต้ เมล็ดกินเป็นผักสดกับแกงเผ็ดต่างๆ หรือนำไปเผาไฟก่อน ใช้ผัดเผ็ด ผัดเปรี้ยวหวานต้มกะทิ เนียงหรือลูกเนียง (Archidendron jiringa) นิยมเฉพาะทางภาคใต้ ใช้เมล็ดเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือกินกับอาหารเผ็ด ทำเป็นลูกเนียงเพาะและดองเป็นผักจิ้ม เรียง (Parkia timoriana) นิยมเฉพาะทางภาคใต้เช่นกัน นำเมล็ดมาเพาะให้งอกรากเล็กน้อยคล้ายถั่วงอก ใช้เป็นผักสด ผักดองจิ้มน้ำพริก กินกับแกงเผ็ด หรือนำมาแกง ชะพลู (Piper sarmentosum) ใช้ใบกินกับเมี่ยงคำ ขี้เหล็ก (Cassia siamea) ใบอ่อนและช่อดอกอ่อนใช้แกงขี้เหล็ก ผักปอดหรือจุ่มปลา (Sphenoclea zeylanica) ยอดและต้นอ่อนใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก หญ้าเอ็นยืดหรือผักกาดน้ำ (Plantago major) ยอดและใบอ่อนใช้เป็นผักสดกินกับลาบ ผักปลัง (Basella alba) ช่อดอกอ่อน ยอดและใบอ่อนลวกจิ้มน้ำพริกและใช้แกงกะทิ แคหางค่าง (Markhamia stipulata) แคบิด (Fernandoa adenophylla) และแคป่าหรือแคทุ่ง(Dolichandrone serrulata) ใช้กลีบดอกผัดหรือยำ โสนหรือโสนกินดอก (Sesbania javanica) ช่อดอกสีเหลืองใช้เป็นผักสดหรือต้มเป็นผักจิ้มดองน้ำเกลือเป็นผักดอง หรือชุบไข่ทอด สลิดหรือขจร (Telosma minor) ใช้ดอกเป็นผักสดหรือต้มให้สุก หรือผัดใส่ไข่ อาวหรือดอกอาว (Curcuma sessilis) ใช้ช่อดอกอ่อนเป็นผักสด งิ้วหรืองิ้วแดง (Bombax ceiba) ใช้เกสรตัวผู้แห้งที่ร่วงหล่นจากดอกนำมาปรุงกับแกงส้มแกงเผ็ด ใบอ่อน ดอกตูมและผลอ่อนใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก กระโดน (Careya sphaerica) ยอดอ่อนกินเป็นผักสดกับน้ำพริก เอื้องหมายนาหรือเอื้องต้น (Costus speciosus) หน่ออ่อนต้มใช้เป็นผักจิ้ม เสม็ดชุน (Syzygium grata) ยอดอ่อนใช้เป็นผักสด เมาะหรือกระดาษขาว (Alocasia odora) ยอดอ่อนใช้แกงเลียง แกงเผ็ด แกงไตปลา หวาย (Calamus spp.) หวายแทบทุกชนิดใช้เป็นอาหารได้ โดยใช้ส่วนของเนื้ออ่อนคอต้นหรือส่วนโคนใบเมื่อลอกกาบใบออก จะพบเนื้ออ่อนกินสดๆ หรือปรุงอาหารอย่างอื่น หวายงวย (Calamus peregrinus) ผลสุกมีรสเปรี้ยว ใช้ใส่แกงให้มีรสออกเปรี้ยว พยอมหรือสุกรม (Shorea roxburghii) ดอกใช้ใส่แกงส้ม แกงเลียง ลวกจิ้มน้ำพริก ทอดกับไข่ ชะมวงหรือส้มมวง (Garcinia cowa) ใบมีรสเปรี้ยว ใช้ใส่ต้มปลา ต้มหมู ต้มเครื่องใน ส้มแขกหรือส้มพะงุน (Garcinia atroviridis) ผลสดและเนื้อในผลตากแห้งมีรสเปรี้ยวใช้ใส่ต้มเนื้อต้มปลา แกงส้ม และน้ำแกงขนมจีน มันปู (Glochidion wallichianum) ยอดอ่อนกินเป็นผักสด นิยมกินกับขนมจีนทางภาคใต้ มะกอกป่า (Spondias pinnata) ใบอ่อนและช่อดอก ใช้เป็นผักสดจิ้มน้ำพริกและหลน แฟบหรือหูลิง (Hymenocardia wallichii) ผลอ่อนกินสด ใส่แกงเลียง แกงส้ม พาโหมหรือกระพังโหม (Paederia linearis และ P. foetida) ใช้เป็นผักผสมข้าวยำทางภาคใต้จิ้มน้ำพริก ทั้งผัดทั้งต้ม กินกับแกงไตปลา ผักหนาม (Lasia spinosa) ยอดอ่อนต้มจิ้มน้ำพริก แกงส้ม ผัด ลำต้นอ่อนปอกผิวออกดองเป็นผักแกล้มแกงไตปลาและขนมจีน กุ่มน้ำ (Crateva magna และ C. religiosa) ใบอ่อนและดอก ลวกหรือดองเป็นผักจิ้มน้ำพริก กำจัดต้น (Zanthoxylum limonella) เมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศผสมกับเครื่องแกงให้มีรสหอมและเผ็ดร้อน ใบอ่อนใช้เป็นผักจิ้ม สะทอนหรือสะท้อนน้ำผัก (Milettia utilis) ชาวบ้านแถบจังหวัดเลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก นำใบสะทอนมาหมักเพื่อทำเครื่องปรุงอาหารที่มีรสเค็มหอมคล้ายน้ำปลา กลุ่มพืชไม้ผล พรรณไม้ในป่าหลายชนิดให้ผลที่มีรสและคุณค่าทางโภชนาการ ชนพื้นบ้านนำมาใช้บริโภคแบบผลไม้เศรษฐกิจทั่วไป มีเพียงไม่กี่ชนิดที่นำมาปลูกตามบ้านหรือหัวไร่ปลายนา เช่น คอแลนหรือหมากแวว (Nephelium hypoleucum) ผลคล้ายลิ้นจี่ แต่มีเมล็ดใหญ่เนื้อหุ้มเมล็ดบาง รสค่อนข้าวเปรี้ยว ใช้กินกับเกลือหรือน้ำปลาหวาน เงาะขนสั้น (Nephelium ramboutan-ake) ผลคล้ายเงาะแต่ขนสั้นเหลือแค่โคน เนื้อหุ้มเมล็ดรสหวานไม่เท่าเงาะ พบบ้างตามตลาดชนบททางภาคใต้ตอนล่าง มีมากในประเทศมาเลเซีย ตะคร้อหรือมะโจ๊ก (Schleichera oleosa) ผลสุกกินได้ กระหรือประ (Elateriospermum tapos) ทางภาคใต้นำเมล็ดมาคั่วแกะกินเนื้อใน หว้า (Syzygium cumini) ผลสุกสีดำ รสฉ่ำหวาน มะขามป้อม (Phyllanthus emblica) ผลสดใช้อมหรือเคี้ยวทำให้ชุ่มคอ แก้กระหายน้ำ ผลแห้งนำมาต้มดื่มแก้ไอ แก้ไข้ มะดัน (Garcinia schomburgkiana) ผลมีรสเปรี้ยวจัดใช้แทนมะนาวได้ดี มักนิยมนำไปดองน้ำเกลือเพื่อทำให้รสเปรี้ยวลดลงและเก็บไว้ได้นาน ก่อหนาม ก่อเดือย ก่อแป้น (Castanopsisspp.) ไม้ก่อหลายชนิดมีผลที่มีหนามหุ้ม เมื่อนำเมล็ดไปคั่วแกะกินเนื้อใน ได้รสหวานมันคล้ายลูกเกาลัด ลูกมุดหรือส้มมุด (Mangifera foetida) นิยมปลูกตามบ้านหรือหัวไร่ปลายนาทางภาคใต้ผลสุกมีกลิ่นหอม รสหวาน ผลดิบนำมาทำมะม่วงดองได้เช่นเดียวกับมะม่วง มะเม่าหลวง (Antidesma bunius) และ มะเม่า (A. ghaesembilla) ผลเล็กจำนวนมากออกเป็นพวงบนช่อ ผลสุกสีดำ รสหวานอมเปรี้ยว เขลงหรือหยีหรือนางดำ (Dialium cochinchinensis) ผลสุกสีดำ เนื้อหุ้มเมล็ดนุ่มสีน้ำตาลรสหวานอมเปรี้ยว นิยมนำไปคลุกหรือเคลือบน้ำตาลเรียกลูกหยี ชนิดผลโตเรียก กาหยี (Dialium indum) พบทางภาคใต้ ต๋าวหรือลูกชิด (Arenga pinnata) ปาล์มออกผลเป็นทะลาย เนื้อในผลกินได้ แต่ต้องต้มให้สุกเสียก่อน นิยมนำไปเชื่อมน้ำตาล เรียกลูกชิด จาก (Nypa fruticans) ปาล์มในป่าโกงกางออกผลเป็นทะลาย เนื้อในผลที่ยังไม่แข็ง มีรสหวานกินได้สดๆ แต่เมื่อผลแก่จัดเนื้อในจะแข็งและมีแป้งมาก ต้องนำมาบดเสียก่อนจึงนำมาทำอาหารได้ มะตูม (Aegle marmelos) เนื้อของผลสุกเมื่อแกะเมล็ดทิ้งไปกินได้ รสหวาน ผลดิบนำมาฝานเป็นแผ่น ตากให้แห้งแล้วเอาไปย่างไฟพอเกรียม ใช้ชงน้ำร้อนแทนชาได้ เรียกชามะตูมหรือน้ำมะตูม มะไฟหรือมะไฟป่า (Baccaurea sapida) ผลสุกรสหวานเช่นเดียวกับมะไฟบ้าน แต่มะไฟในป่าผลมักจะมีรสหวานอมเปรี้ยว บางต้นมีรสเปรี้ยวจัด ละไมหรือรำไบ (Baccaurea motleyana) ผลสุกกินได้คล้ายมะไฟ รสหวานอมเปรี้ยว ส้มโหลกหรือส้มหูก (Baccaurea lanceolata) ผลคล้ายมะไฟ ผลสุกสีนวล รสเปรี้ยวจัด เปลือกหนาใช้ประกอบอาหาร ลังแขหรือลำแข (Baccaurea macrophylla) ผลใหญ่ เปลือกหนามาก เมล็ดมีเนื้อหนากรอบรสหวาน ละมุดสีดาหรือละมุดไทย (Manikara kauki) ผลรูปไข่ขนาดพุทรา สุกสีน้ำตาลอมเหลือง รสหวานมี ๒-๓ เมล็ด เป็นผลไม้พื้นบ้านของไทยในสมัยก่อน ปัจจุบันหายาก [กลับหัวข้อหลัก] |
|
พืชมีพิษ
| พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม ชนพื้นบ้านรู้จักนำส่วนต่างๆ ของพืชหลายชนิดที่ให้สีมาใช้แต่งสีอาหาร อันเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษภัยต่อร่างกาย หรือนำพืชที่ให้สีย้อมมาย้อมผ้า แห อวน หรือหนัง โดยเฉพาะผ้าพื้นเมืองจำพวกผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งให้สีสันเป็นธรรมชาติดีกว่าสีวิทยาศาสตร์หรือสีสังเคราะห์กลุ่มพืชที่ให้สีดังกล่าว เช่น |
พืชสมุนไพร
พืชสมุนไพร หมายถึง พืชที่ใช้ทำเป็นยารักษาโรค โดยใช้ส่วนต่างของพืชชนิดเดียวหรือหลายชนิดพร้อมกัน พืชสมุนไพรเป็นกลุ่มพืชที่อยู่ในความสนใจ และมีผู้ศึกษาทางด้านพฤกษศาสตร์พื้นบ้านมากที่สุด ยารักษาโรคปัจจุบันหลายขนานที่ผลิตเป็นอุตสาหกรรม ได้มาจากการศึกษาวิจัยการใช้พืชสมุนไพรพื้นบ้านของกลุ่มชนพื้นเมืองตามป่าเขาหรือในชนบท ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษที่ได้สังเกตว่าพืชใดนำมาใช้บำบัดโรคได้ มีสรรพคุณอย่างไร จากการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ และการทดลองแบบพื้นบ้านที่ได้ทั้งข้อดีและข้อผิดพลาด
พืชสมุนไพรพื้นบ้านในตำรับยาไทยมีหลายร้อยชนิด จะนำมากล่าวถึงเป็นตัวอย่างเพียงบางชนิด แยกตามกลุ่มพืชที่ใช้บำบัดโรคต่างๆ ดังนี้
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้แก้ไข้และขับปัสสาวะ เช่น
เปลือกพญาสัตบรรณหรือตีนเป็ด (Alstoniascholaris)
เปลือกและใบทุ้งฟ้า (Alstonia macrophylla)
ใบหนาด (Blumea balsamifera)
ราก เปลือก และใบ ขลู่ (Pluchea indica)
ใบ เนื้อไม้ ผล และเมล็ดมะคำไก่ หรือประคำไก่ (Drypetes roxburghii)
ต้นและรากอ้อเล็ก (Phragmites australis)
รากและใบกรุงเขมา (Cissampelos pareira)
เถาบอระเพ็ด (Tinospora crispa)
เถาขมิ้นเครือ (Arcangelisia flava)
ราก เหง้า และใบหญ้าคา (Imperatacylindrica)
ผลน้ำเต้า (Legenaria siceraria)
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย เช่น
เนื้อไม้สีเสียดหรือสีเสียดเหนือ (Acaciacatechu)
ใบและผลมะตูม (Aegle marmelo)
เปลือกประดู่บ้าน (Pterocarpus indicus)
เหง้าไพล (Zingiber purpureum)
เหง้าและรากกระชาย (Boesenbergia rotunda)
แก่นฝาง (Caesalpinia sappan)
ราก เปลือก เนื้อไม้ ใบและดอกแก้ว (Murrayapaniculata)
เปลือกโมกหลวง(Holarrhenapubescens)
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาระบายและขับพยาธิ เช่น
ผลดิบมะเกลือ (Diospyros mollis)
แก่นไม้มะหาด (Artocarpus lakoocha)
เมล็ดเถาเล็กมือนาง (Quisqualis indica)
เมล็ดสะแกนา (Combretum quadran-gulare)
เมล็ดแห้งฟักทอง (Cucurbita moschata)
เนื้อในเมล็ดมะขาม (Tamarindus indica)
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาขับลม เช่น
เหง้าแก่ขิง (Zingiber officinale)
เหง้าว่านน้ำ (Acorus calamus)
ผลกระวาน (Amomum krervanh)
เหง้าข่า (Alpinia galanga)
ผลพริกไทย (Piper nigrum)
ต้นตะไคร้ (Cymbopogon citratus)
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้แก้โรคผิวหนัง เช่น
เปลือก ใบ และเมล็ดสารภีทะเลหรือกระทิง (Calophyllum inophyllum)
ใบและเมล็ดชุมเห็ดไทย (Cassia tora)
ใบชุมเห็ดเทศ หรือ ชุมเห็ดใหญ่ (Cassia alata)
ใบ ดอกและเมล็ดเทียนบ้าน (Impatiensbalsamina)
รากและใบทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus)
เปลือก ใบ ดอกและผลโพธิ์ทะเล (Thespesia populnea)
ใบและเมล็ดครามป่า (Tephrosia purpurea)
ยางสลัดไดป่า (Euphorbia antiquorum)
น้ำยางสบู่ดำ (Jatropha curcas)
เมล็ดทองกวาว (Butea monosperma)
เปลือกเถาสะบ้ามอญ (Entada rheedii)
เมล็ดกระเบาใหญ่ (Hydnocarpus anthelminthicus)
เหง้าข่า (Alpiniaa galanga)
หัวหรือกลีบกระเทียม (Allium sativum)
กลุ่มพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นยาฆ่าแมลงและไล่แมลง เช่น
รากเถาโล่ติ๊น หรือหางไหล (Derris elliptica)
ใบและเมล็ดน้อยหน่า (Annona squamosa)
รากหนอนตายหยาก (Stemona tuberosa)
เมล็ดงา (Sesamun indicum)
ผลมะคำดีควายหรือมะซัก (Sapindus rarak)
ใบเสม็ดหรือเสม็ดขาว (Melaleuca cajuputi)
ต้นขอบชะนางหรือหญ้าหนอนตาย (Pouzol-zia pentandra)
เปลือก ใบและผลสะเดา (Azadirachta indica)
เปลือกกระเจาหรือกระเชา (Holopteleaintegrifolia)
ใบสดกว้าว (Haldina cordifolia)
สุภาษิต คำพังเพย สำนวนไทย
กงกำกงเกวียน
ใช้เป็นคำอุปมาหมายความว่า เวรสนองเวร, กรรมสนองกรรม, เช่น ทำแกเขาอย่างไร
ตนหรือลูกหลานก็อาจจะถูกทำในทำนองเดียวกันอย่างนั้นบ้าง เป็นกลกำกงเกวียน
กรวดน้ำคว่ำกะลา, กรวดน้ำคว่ำขัน
ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย
กระดังงาลนไฟ
หญิงที่เคยแต่งงานหรือผ่านผู้ชายมาแล้ว ย่อมรู้จักชั้นเชิงทางปรนนิบัติและเอาอกเอาใจ
ผู้ชายได้ดีกว่าหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน
กระดี่ได้น้ำ
ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการดีอกดีใจจนตัวสั่น เช่น เขาดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ
กระต่ายขาเดียว, กระต่ายสามขา
ยืนกรานไม่ยอมรับ
กระต่ายตื่นตูม
ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันสำรวจให้ถ่องแท้ก่อน
กระต่ายหมายจันทร์
ผู้ชายหมายปองผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า
กำขี้ดีกว่ากำตด
ได้บ้างดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
2
กินน้ำไต้ศอก
จำต้องยอมเป็นรองเขา, ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า, (มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมล
ให้แก่เมียหลวง)
กาคาบพริก
ลักษณะคนผิวดำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแดง
กินบนเรือน ขี้บนหลังคา
คนเนรคุณ
กินปูนร้อนท้อง
ทำอาการมีพิรุธเอง, แสดงอาการเดือดร้อนขึ้นเอง
เกลือเป็นหนอน, ไส้เป็นหนอน
ญาติมิตร สามาภรรยา บุตรธิดา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้านคิดคดทรยศ
ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน
ขนทรายเข้าวัด
หาประโยชน์ให้ส่วนรวม
ขมิ้นกับปูน
ชอบวิวาทกันอยู่เสมอเมื่ออยู่ใกล้กัน, ไม่ถูกกัน
ข่มเขาโคขืน
บังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามที่ตนต้องการ เช่น จะจัดแจงแต่งตามอารมณ์ให้กินหญ้าเรา
เหมือนข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า
ขว้างงูไม่พ้นคอ
ทำอะไรแล้วผลร้ายกลับมาสู่ตัว ขวานผ่าซาก โผงผางไม่เกรงใจใคร (ใช้แก่กริยาพูด)
อาหารต้านมะเร็ง
การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ
(ทีมงาน TeeNee.Com)
ความจริงเกหี่ยวกับความรัก
1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือ การรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ทานประทานมา
3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว
4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่ เปิดไว้รอเรา
6.เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไร กันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
7.เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา
8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเรา
9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
10. อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจได้
11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้
14.มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขามาจากความฝัน เพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น
15. ฝัน ถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไปในที่ที่คุณต้องการไป เป็นในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ
16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข
17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน
18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำรักอาจเยียวยาและทำให้มีสุขได้
19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่าเราเราเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในพวกเขา
20. คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก
21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่าของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิตพวกเขา
22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา
23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่ถูกลืม คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดีถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดใน อดีต และความปวดใจ
24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ - A man overtime falls in love with the woman he is attracted to, and a woman overtime becomes more attracted to the man she loves. ผู้ชายมักจะตกหลุมรักคนที่เค้าหลงเสน่ห์ และผู้หญิงจะหลงเสน่ห์คนที่เธอตกหลุมรัก - Friendship is love minus sex and plus reason. Love is friendship plus sex and minus reason. มิตรภาพคือ ความรัก ลบด้วย เซ็กซ์ และบวกเอาเหตุผลเพิ่มเข้าไป ส่วนรักคือ มิตรภาพบวกด้วยเซ็กซ์ และลบเอาเหตุผลออก - To love is nothing. To be loved is something. To love and be loved is everything!! การได้รักเป็นเรื่องขี้ผง การถูกรักเป็น "บางอย่าง" ทีเดียว ส่วนการได้รักและการถูกรักเป็นทุกอย่าง (ว้าว) - You may only be one person to the world but you may also be the world to one person. คุณอาจจะเป็นแค่ "คน ๆ หนึ่ง" ในโลกใบนี้ แต่คุณอาจจะเป็น "โลกทั้งใบ" ของคนคนหนึ่งก็ได้ - Friendship often ends in love, but love in friendship- never. มิตรภาพมักจะจบลงด้วยความรัก แต่ความรักไม่มีวันจบลงด้วยมิตรภาพ - You know when you love someone when you want them to be happy even if their happiness means that you're not part of it. (อันนี้ต้องขอบอกว่าโปรดมากค่ะ) คุณรู้ว่า คุณรักเค้าก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้เค้ามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นจะหมายความถึงการที่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน - Love looks not with the eyes, but with the mind. ความรักนั้น เห็นไม่ได้ด้วยตา แต่ด้วยใจ - Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave. And you can never go without leaving your shoes behind. ความรักก็เหมือนซีเมนต์เปียก ๆ ยิ่งคุณอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งติดหนึบ จากไปไม่ได้เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ข้างหลัง - Don't marry a person you can live with, marry somebody you can't live without. จงอย่าแต่งงานกับคนที่คุณ "อยู่ด้วยได้" จงแต่งงานกับคนที่คุณ "ขาดไม่ได้" - Don't rely on the past to create the future, rely on the future to erase the past. อย่าวางใจใช้อดีตเป็นตัวสร้างอนาคต แต่จงใช้อนาคตเป็นตัวลบอดีตทิ้งไป - Love will die if held too tightly; love will fly if held too lightly. รักจะเฉาตายถ้ายึดไว้แน่นเกินไป และรักจะโบยบินไปถ้ายึดไว้หย่อนเกินไป - If you love someone tell them, don't wait or else you will lose the chance. ถ้าคุณรักใคร บอกเค้าซะ อย่ารีรออยู่เลย ไม่งั้นคุณจะเสียโอกาสนะ - It only takes a second to say "I love you", but it will take a lifetime to show you how much. ใช้เวลาแค่เพียงชั่ววินาทีในการบอกว่า "ชั้นรักเธอ" แต่ใช้เวลาตลอดชีวิตในการแสดงให้เห็นว่า รักมากเพียงไร - Love, is like water, we take it for granted. Thus, when it is gone, it becomes crucial. ความรักก็เหมือนน้ำ เรามักจะเห็นมันเป็นของตาย ต่อเมื่อ มันหมดไปแล้ว นั่นละ ... มันจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น - True love is like ghosts, which everyone talks about but few have seen. รักแท้ก็เหมือนกับปีศาจ ทุกคนพูดถึง แต่มีคนน้อยมากที่ได้เห็นว่าเป็นอย่างไร - The essential sadness is to go through life without loving. But it would be almost equally sad to leave this world without ever telling those you loved that you love them. ความเศร้าที่สำคัญคือการชีวิตโดยปราศจากความรัก แต่มันคงจะเศร้าเกือบจะพอ ๆ กันที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้บอกคนที่คุณรักว่า คุณรักพวกเค้า" - A man falls in love through his eyes, a woman through her ears. ผู้ชายตกหลุมรักทางตา แต่ผู้หญิงน่ะ ตกหลุมรักทางหู - The way to love anything is to realize that it might be lost. หนทางที่จะรักสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็คือ การตระหนักสิ่งนั้น ๆ อาจจะสูญหายได้ - The perfect marriage begins when each partner believes they got better than they deserve. การแต่งงานที่สมบูรณ์แบบเริ่มขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างคิดว่า พวกเค้าได้รับสิ่งที่ดีเกินกว่าที่ตัวเองสมควรได้รับ - When a young man complains that a young woman has no heart, it is pretty sure that she has his. เวลาที่หนุ่มน้อยโอดควรญว่า สาวน้อยนางนั้นไม่มีหัวใจ ค่อนข้างแน่ใจได้เลยว่า สาวน้อยนั้นน่ะ ... มีหัวใจของหนุ่มคนนั้นอยู่ในกำมือ - Kindness in words creates confidence, kindness in thinking creates profoundness, kindness in giving creates love. วาจาที่กรุณาจะสร้างความเชื่อมั่น จิตใจที่กรุณาจะสร้างความลึกซึ้งของจิตใจ และการให้ที่กรุณาจะก่อให้เกิดรัก - To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain. To try is to risk failure, but risk must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing. การที่ได้รักคือการเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับความรักเป็นการตอบแทน การตั้งความหวังคือการเสี่ยงกับความเจ็บปวด การพยายามคือการเสี่ยงกับความล้มเหลว แต่ยังไงก็ต้องเสี่ยง เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตก็คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย - When loving someone...never regret what you do...only regret what you didn't do. เวลารักใคร ... อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณได้กระทำ จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ - Gravity cannot be held responsible for people falling in love. เวลาคนตกหลุมรักน่ะ ... โทษแรงโน้มถ่วงไม่ได้ จริงมั้ยล่ะ (ต้องโทษคนขุดหลุม) There is a story of a woman Who always kept her feelings towards her friend Until the day he got married, she decided to tell him the truth And he felt that it's a good joke for his wedding มีเรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรักเพื่อนของเธอแต่ได้เพียงเก็บความรู้สึกเอาไว้ จนกระทั่งวันที่เขาแต่งงาน เธอก็ตัดสินใจบอกความจริงกับเขา ...แต่เขากลับคิดว่าเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับวันแต่งงานของเขา... There is a story of a man Who has never told his wife how much he loves her Until the day she passed away Until now, he keeps sending flowers to her grave everyday With thousand kisses on the card saying "I love you" Would she be able to know? และยังมีเรื่องเล่าของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่เคยบอกภรรยาว่าเขารักเธอมากแค่ไหน จนกระทั่งเธอตายจากไป ถึงบัดนี้ เขายังคงวางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพของเธอทุกวัน พร้อมกับรอยจูบนับพันบนการ์ดที่เขียนว่า "ผมรักคุณ" ...เธอจะมีโอกาสได้รับรู้ไหม... Yet, there is a story of a girl Who always needed a warm hug from her daddy But she was too shy to ask for Until the day he can never hug her any more... และยังมีเรื่องเล่าของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นจากพ่อของเธอเสมอ แต่เธอเขินอายเกินกว่าจะเอ่ยปากออกไป ...จนกระทั่งวันที่พ่อไม่สามารถกอดเธอได้อีกต่อไป... A lot of stories happen everyday You could know what had happened yesterday How can you be sure what will happen tomorrow? Think of something you never say Are you waiting until the day? to say " I LOVE YOU " ทุกๆวันเกิดเรื่องต่างๆขึ้นมากมาย คุณอาจจะรู้ว่า เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรุ่งนี้ ลองคิดถึงบางสิ่งที่คุณไม่เคยพูด จะต้องรอให้ถึงวันไหน ที่จะบอกคำว่า "รัก”อ้างอิง โดย :JaAey..Ja (ทีมงาน TeeNee.Com)








